ทำไมเว็บถึงไม่ปลอดภัย? แก้ไขง่ายๆ ให้เว็บคุณน่าเชื่อถือทันที

ทำไมเว็บถึงไม่ปลอดภัย? แก้ไขง่ายๆ ให้เว็บคุณน่าเชื่อถือทันที

เคยเปิดเว็บตัวเองบน Google Chrome หรือ Safari บนมือถือแล้วเจอคำว่า “เว็บนี้ไม่ปลอดภัย” ไหม? เห็นแล้วสะดุ้งเลยใช่ไหมล่ะ? ไม่ว่าจะเป็นข้อความเตือนเล็กๆ หรือหน้าจอสีแดงเด่นมาเลย มันไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน โดยเฉพาะสำหรับคนที่ทำธุรกิจผ่านเว็บไซต์ มาดูกันว่าทำไมถึงเกิดปัญหานี้ พร้อมวิธีแก้ไขง่ายๆ ที่ทำเองได้! 

มาดูสาเหตุต่างๆว่าทำไม เว็บขึ้นไม่ปลอดภัย พร้อมวิธีแก้ไข

1. ตรวจสอบ SSL Certificate (https://)

สาเหตุหลักๆ 90% ที่เจอบ่อยเลยครับทำให้เบราว์เซอร์จะมองว่าเว็บไม่ปลอดภัย เพราะข้อมูลที่ส่งระหว่างผู้ใช้กับเซิร์ฟเวอร์ไม่ได้ถูกเข้ารหัส อาจโดนแฮกเกอร์ดักข้อมูลได้

เว็บไม่มี SSL Certificate หรึอไม

เว็บไซต์ไม่มี SSL ส่วนมากยังเป็น HTTP (ไม่มีตัว “S” ใน HTTPS) จะถูกเบราว์เซอร์มองว่าไม่ปลอดภัย เพราะข้อมูลที่ส่งผ่านเว็บอาจถูกแฮกได้ง่าย

วิธีตรวจสอบว่าเว็บเรามี SSL หรือไม่

  • ใช้เครื่องมือออนไลน์ เช่น SSL Checker เพื่อตรวจสอบสถานะ
  • ถามโปรแกรมเมอร์หรือผู้จัดทำเว็บไซต์ ว่าเว็บเรามี SSL หรือไหม

ใบรับรอง SSL หมดอายุ

SSL Certificate มีอายุการใช้งาน (ส่วนใหญ่ 1 ปี) ควรตั้งระบบแจ้งเตือนล่วงหน้า หรือเลือกใช้ SSL แบบต่ออายุอัตโนมัติ แม้เว็บไซต์ของคุณจะเคยติดตั้ง SSL แต่ถ้าไม่ต่ออายุ ก็จะได้รับคำเตือนนี้เช่นกัน

วิธีแก้ไข

ติดตั้ง SSL Certificate ครับ เดี๋ยวนี้มีแบบฟรี (เช่น Let’s Encrypt) และแบบเสียเงินขึ้นอยู่กับความต้องการ

  • ถ้าใช้โฮสติ้ง ให้ลองติดต่อผู้ให้บริการ ส่วนใหญ่เขามีบริการช่วยติดตั้งให้
  • ถ้าจ้างคนทำเว็บ ให้ลองติดต่อเค้าดูครับ ให้เค้าช่วยติดตั้งให้
  • ถ้าทำทำเว็บเอง ใช้ Let’s Encrypt แล้วตั้งค่าให้เปลี่ยนลิงก์ทั้งหมดเป็น https://

หลังการติดตั้งเสร็จแล้ว ให้ตรวจสอบว่า SSL ทำงานปกติหรือไม่ โดยใช้เครื่องมืออย่าง SSL Labs

ป้องกันปัญหา SSL ในอนาคต

  • ตั้งค่า SSL ให้อับเดทการต่ออายุอัตโนมัติ

2.ตรวจสอบว่าเว็บเรามีการดึงเนื้อหาภายนอกหรือเปล่า?

บางครั้งแม้เว็บจะใช้ HTTPS แต่เนื้อหาบางส่วน เช่น รูปภาพ, JavaScript, หรือ CSS อาจดึงมาจาก URL ที่เป็น http:// ซึ่งเบราว์เซอร์จะเตือนว่าเว็บไม่ปลอดภัย

วิธีแก้

  • ถ้าเป็บเว็บเราเองให้อัปเดต URL ของเนื้อหาภายนอกทั้งหมดให้เป็น https:// 
  • ถ้าไม่ใช้เว็บเราเองให้ลบ URL ที่ไม่ใช้ https:// ทิ้งซ่ะ

3.โดเมนถูกขึ้นบัญชีดำ (Blacklist)

โดเมนของคุณถูกขึ้นบัญชีดำหรือไม่? ปัญหานี้ไม่เพียงทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถเข้าถึงเว็บได้ แต่ยังส่งผลต่อ SEO และชื่อเสียงของธุรกิจอีกด้วย มาดูสาเหตุ วิธีตรวจสอบ และแนวทางแก้ไขอย่างละเอียดกันครับ

1. สาเหตุที่โดเมนอาจถูกขึ้นบัญชีดำ

  • เว็บไซต์ถูกแฮ็ก โดเมนอาจถูกใช้สำหรับแจกจ่ายมัลแวร์หรือฟิชชิง
  • อีเมลสแปม หากโดเมนถูกใช้ส่งอีเมลสแปม อาจถูกลิสต์ในฐานข้อมูลของผู้ให้บริการ
  • ปัญหาเนื้อหา โดเมนมีเนื้อหาที่ละเมิดข้อกำหนด เช่น เนื้อหาผิดกฎหมายหรือหลอกลวง
  • การตั้งค่าที่ผิดพลาด เช่น มีการตั้งค่า DNS หรือเซิร์ฟเวอร์ผิดพลาดจนถูกมองว่าไม่น่าเชื่อถือ

2. วิธีตรวจสอบว่าโดเมนถูกขึ้นบัญชีดำหรือไม่

ตรวจสอบด้วยเครื่องมือออนไลน์ด้วย Google Safe Browsing

https://transparencyreport.google.com/safe-browsing/search

วิธีแก้ไขปัญหาโดเมนถูกขึ้นบัญชีดำ

เว็บที่สร้างด้วยตัวเองใช้เครื่องมือสแกนความปลอดภัย เช่น Sucuri SiteCheck แล้วลบมัลแวร์หรือสคริปต์ที่เป็นอันตรายออกจากเว็บไซต์ 

สำหรับ WordPress อัปเดตซอฟต์แวร์และปลั๊กอินด้วย

หากคุณใช้ CMS เช่น WordPress และมีปลั๊กอินหรือธีมที่ไม่ได้อัปเดตหรือมีช่องโหว่ อาจทำให้เว็บไซต์ถูกมองว่าไม่ปลอดภัย

  • อัปเดต CMS, ธีม, และปลั๊กอินเป็นเวอร์ชันล่าสุด
  • ลบปลั๊กอินหรือธีมที่ไม่จำเป็นและไม่ได้รับการอัปเดต

สิ่งที่สำคัญตรวจสอบและปรับปรุงเนื้อหา

  • ลบเนื้อหาที่ละเมิดกฎหมายหรือนโยบาย
  • ตรวจสอบลิงก์ภายนอกและแก้ไขหากลิงก์ไปยังเว็บไซต์อันตราย

ป้องกันปัญหาโดเมนถูกขึ้นบัญชีดำในอนาคต

  • ติดตั้ง SSL Certificate เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล
  • ตรวจสอบเว็บไซต์และโดเมนเป็นประจำ
  • อย่าส่งอีเมลสแปม
  • หลีกเลี่ยงการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมลสำหรับการส่งอีเมลจำนวนมากโดยไม่ได้ตั้งค่า SPF/DKIM
  • อัปเดต CMS, ปลั๊กอิน, และธีมอย่างสม่ำเสมอ และลบปลั๊กอินที่ไม่ใช้งาน

4.เว็บไซต์ถูกแฮก หรือ Hosting ถูกเจาะระบบ

หากเว็บไซต์ หรือ Hosting ถูกโจมตี การเชื่อมต่ออาจถูกดักแปลงข้อมูลหรือเปลี่ยนเส้นทางไปยังเว็บไซต์อันตราย

วิธีแก้ไขปัญหาหากเว็บไซต์ถูกแฮกหรือ Hosting ถูกโจมตี

  • เปลี่ยนรหัสผ่านและล็อกอินทั้งหมด เปลี่ยนรหัสผ่านของบัญชีผู้ดูแลระบบ (Admin) และผู้ใช้ทั้งหมดที่เข้าถึงเว็บไซต์หรือเซิร์ฟเวอร์

ตรวจสอบและลบไฟล์ที่ถูกแทรกแซง

  • หากพบว่ามีไฟล์ที่ไม่รู้จักหรือไฟล์ที่ถูกดัดแปลงในระบบเซิร์ฟเวอร์ ให้ลบไฟล์เหล่านั้นทันที
  • ตรวจสอบไฟล์และโค้ดที่อาจถูกแทรกแซงหรือเปลี่ยนแปลงโดยแฮ็กเกอร์

อัปเดตซอฟต์แวร์อยู่เสมอเพื่อความปลอดภัย

  • อัปเดต CMS (เช่น WordPress, Joomla) และปลั๊กอินทั้งหมดที่ใช้ เพื่อป้องกันการโจมตีจากช่องโหว่ที่รู้จัก
  • อัปเดตเซิร์ฟเวอร์และซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่ใช้กับเว็บไซต์
  • ติดต่อคนทำเว็บให้อัพเดทซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่

ตรวจสอบการตั้งค่า DNS ของเว็บไซต์ไม่ถูกแก้ไขเพื่อเปลี่ยนเส้นทางการเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้ไม่หวังดี

วิธีป้องกันปัญหาในอนาคต

  • ใช้ SSL/TLS เพื่อเข้ารหัสการเชื่อมต่อ
  • ติดตั้งใบรับรอง SSL เพื่อให้การเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้และเว็บไซต์ปลอดภัยจากการดักฟังข้อมูล
  • เปลี่ยนเส้นทาง HTTP ไปยัง HTTPS โดยอัตโนมัติ
  • ตรวจสอบความปลอดภัยของเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ
  • ใช้ Hosting ที่มีคุณภาพ อย่าเห็นแก่ของถูก

สรุปแบบง่ายๆ สาเหตุหลักๆ เว็บขึ้นไม่ปลอดภัย

  • ตรวจสอบ SSL Certificate (https://)
  • ตรวจสอบว่าเว็บเรามีการดึงเนื้อหาภายนอกหรือเปล่า?
  • ตรวจสอบว่าโดเมนถูกขึ้นบัญชีดำ (Blacklist)
  • ตรวจสอบว่าเว็บไซต์ถูกแฮก หรือ Hosting ถูกเจาะระบบหรือเปล่า?

ปัญหาเว็บขึ้นไม่ปลอดภัยอาจมาจาก 4 สาเหตุนี้ แต่ส่วนใหญ่แก้ไขได้ไม่ยาก! แค่หมั่นตรวจสอบเว็บ อัปเดตซอฟต์แวร์ และติดตั้ง SSL ก็ช่วยให้เว็บคุณปลอดภัยขึ้นมากแล้ว อย่าลืมนะ ความปลอดภัยของเว็บคือความน่าเชื่อถือของธุรกิจคุณด้วย ลองแก้ปัญหาดูนะ หากแก้ไขไม่ได้จ้าง jobweb24.com เราแก้ไขได้นะ แล้วเว็บคุณจะปลอดภัยกว่าเดิมแน่นอน


ศึกษาเพิ่มเติม

ตรวจสอบว่า SSL ทำงานหรือไม
https://www.ssllabs.com/ssltest/index.html

ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อของเว็บไซต์ปลอดภัยหรือไม่
https://support.google.com/chrome/answer/95617?hl=th

สถานะเว็บไซต์ Safe Browsing เว็บถูกขึ้นบัญชีดำหรือไม่
https://transparencyreport.google.com/safe-browsing/search

บทความล่าสุด

บทความอื่นๆ